วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

จรรยาบรรณการใช้อินเตอร์เน็ต




จรรยาบรรณการใช้อินเตอร์เน็ต


จรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต
              ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตนั้น มีเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการใช้งานระบบเครือข่ายนี้ก็ย่อมจะมีผู้ที่ประพฤติไม่ดี และสร้างปัญหาให้กับผู้อื่นเสมอ ดังนั้นแต่ละเครือข่ายจึงต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์ข้อบังคับไว้ และในฐานะผู้ใช้งานที่ได้รับสิทธิ์ ให้ใช้งานเครือข่ายนั้นก็ควรที่จะต้องเข้าใจ และปฏิบัติตามกฎที่ได้ถูกวางไว้ เพื่อให้การอยู่ร่วมกันในระบบอินเตอร์เน็ตเป็นไปอย่างสงบสุข จึงได้มีผู้พยายามรวบรวม กฎ กติกา มารยาท และวางเป็นจรรยาบรรณอินเตอร์เน็ต หรือที่เรียกว่า Netiquette ความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นเรื่องที่จะต้องปลูกฝัง กฎเกณฑ์ของแต่ละเครือข่าย จึงต้องมีและวางระเบียบเพื่อให้ดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระบบ และเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน อนาคตของการใช้เครือข่าย ยังมีอีกมาก จรรยาบรรณจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้ สังคมสงบสุข
จรรยาบรรณ ที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ต้องยึดถือไว้เสมือนเป็น แม่บทแห่งการปฏิบัติเพื่อระลึกและ เตือนความจำอยู่เสมอ
บัญญัติ 10 ประการ  คือ
     1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น
     2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
     3. ต้องไม่สอดแนม หรือมาแก้ไขเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
     4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
     5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
     6. ต้องไม่คัดลอกโปรแกรม ที่ผู้อื่นมีลิขสิทธิ์ และไม่ได้รับการอนุญาต
     7. ต้องไม่ละเมิด การใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
     8. ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่น มาเป็นของตน
     9. ต้องคำนึงถึง สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคม อันติดตามมาจาก การกระทำของตน
    10. ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพ กฎระเบียบ กติกา มารยาท

จรรยาบรรณ เกี่ยวกับการใช้ ระบบสนทนาแบบ Online
     1. ควรเรียกสนทนาจากผู้ที่เรารู้จัก และต้องการจะสนทนาด้วย หรือมีเรื่องสำคัญที่จะติดต่อด้วย
     2. ควรระลึกเสมอว่าการขัดจังหวะผู้อื่น ที่กำลังทำงานอยู่อาจจะสร้างปัญหาได้
     3. ก่อนการเรียกคู่สนทนา ควรตรวจสอบสถานะ การใช้งานของคู่สนทนา ที่ต้องการเรียก เสียก่อนเพราะการเรียกแต่ละครั้ง จะมีข้อความไปปรากฏที่หน้าจอ ของฝ่ายที่ถูกเรียก ซึ่งก็สร้างปัญหาในการทำงานได้ เช่น ขณะกำลังทำงานค้าง FTP อยู่ ซึ่งไม่สามารถหยุดได้
     4. หลังจากเรียกไปชั่วขณะ คู่ที่ถูกเรียกไม่ตอยกลับ แสดงว่าคู่สนทนาอาจติดงานสำคัญ ขอให้หยุดการเรียก เพราะข้อความที่เรียกไป ปรากฏบนจออย่างแน่นอนแล้ว
     5. ควรใช้วาจาสุภาพ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน
จรรยาบรรณเกี่ยวกับเวิล์ดไวด์เว็บ
      1) ห้ามใส่รูปภาพที่มีขนาดใหญ่ไว้ในเว็บเพจของท่าน เพราะทำให้ผู้ที่เรียกดูต้องเสียเวลามากในการแสดงภาพเหล่านั้น ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนมากเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยโมเด็ม ทำให้ผู้เรียกดูรูปภาพขนาดใหญ่  เบื่อเกินกว่าที่จะรอชมรูปภาพนั้นได้
     2 ) เมื่อเว็บเพจของท่านต้องการสร้าง link ไปยังเว็บเพจของผู้อื่น ท่านควรแจ้งให้เจ้าของ
เว็บเพจ นั้นทราบ ท่านสามารถแจ้งได้ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
     3 ) ถ้ามีวิดีโอหรือเสียงบนเว็บเพจ ท่านควรระบุขนาดของไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงไว้ด้วย (เช่น 10 KB, 2 MB เป็นต้น) เพื่อให้ผู้เรียกดูสามารถคำนวนเวลาที่จะใช้ในการดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงนั้น
     4 ) ท่านควรตั้งชื่อ URL ให้ง่าย ไม่ควรมีตัวอักษรตัวใหญ่ปนกับตัวอักษรตัวเล็ก ซึ่งจำได้ยาก
     5 ) ถ้าท่านต้องการเรียกดูข้อมูลจาก URL ที่ไม่ทราบแน่ชัด ท่านสามารถเริ่มค้นหาจาก domain address ได้ โดยปกติ URL มักจะเริ่มต้นด้วย www แล้วตามด้วยที่อยู่ของเว็บไซด์
เช่น http://www.nectec.or.th/ http://www.tv5.co.th/ http://www.kmitl.ac.th/
     6 ) ถ้าเว็บไซด์ของท่านมี link เชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่นๆ ด้วยรูปภาพเท่านั้น อาจทำให้ผู้เรียกดูที่ใช้โปรแกรมบราวเซอร์ที่ไม่สนับสนุนรูปภาพ ไม่สามารถเรียกชมเว็บไซด์ของท่านได้ ท่านควรเพิ่ม link ที่เป็นตัวหนังสือเพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่นๆ ด้วย
     7) ท่านไม่ควรใส่รูปภาพที่ไม่มีความสำคัญต่อข้อมูลบนเว็บเพจ เนื่องจากไฟล์ของรูปภาพมีขนาดใหญ่ ทำให้เสียเวลาในการเรียกดูและสิ้นเปลือง bandwidth โดยไม่จำเป็น
    8 ) ท่านควรป้องกันลิขสิทธิ์ของเว็บไซด์ด้วยการใส่เครื่องหมาย trademark (TM) หรือเครื่องหมาย Copyright ไว้ในเว็บเพจแต่ละหน้าด้วย
       9) ท่านควรใส่ email address ของท่านไว้ด้านล่างของเว็บเพจแต่ละหน้า เพื่อให้ผู้เรียกชมสามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือติดต่อท่านได้
     10) ท่านควรใส่ URL ของเว็บไซด์ไว้ด้านล่างของเว็บเพจแต่ละหน้าด้วย เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงในอนาคตสำหรับผู้ที่สั่งพิมพ์เว็บเพจนั้น
     11 ) ท่านควรใส่วันที่ของการแก้ไขข้อมูลบนเว็บไซด์ครั้งสุดท้ายไว้ด้วย เพื่อให้ผู้เรียกชมทราบว่าข้อมูลที่ได้รับนั้น มีความทันสมัยเพียงใด
     12 ) ห้ามไม่ให้เว็บไซด์ของท่านมีเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ มีเนื้อหาที่ตีความไปในทางลามกอนาจารหรือการใช้ความรุนแรง เนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมาย ผู้จัดทำเว็บไซด์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเนื้อหาและข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซด์นั้น

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

 แท็บเล็ต  Tablet
หลายๆคนพอพูดถึง "แท็บเล็ต - Tablet" แล้วอาจจะงงว่ามันคืออะไร ?? แต่ถ้าพูดว่า iPad, Samsung Galaxy Tab แล้วล่ะก็ต้องร้อง อ๋อ กันแน่นอนซึ่ง iPad และ Samsung Galaxy Tab นั้นจริงๆแล้วเป็นเพียงแค่ชื่อรุ่นเท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้วตัวเครื่องเหล่านี้จะเรียกกันว่า "แท็บเล็ต - Tablet"

"แท็บเล็ต - Tablet" ในความหมายแท้จริงแล้วก็คือแผ่นจารึกที่เอาไว้บันทึกข้อความต่างๆโดยการเขียน (อาจจะเป็นกระดาษ, ดิน, ขี้ผื้ง, ไม้) และมีการใช้กันมานานแล้วในอดีต แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาคอมพิวเตอร์ที่ใช้แนวคิดนี้ขึ้นมาแทนที่ซึ่งมีหลายบริษัทได้ให้คำนิยามที่แตกต่างกันไป หลักๆแล้วก็มี 2 ความหมายด้วยกันคือ "แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC (Tablet Personal Computer)" และ "แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ - Tablet Computer" หรือเรียกสั้นๆว่า "แท็บเล็ต - Tablet"


แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC (Tablet personal computer)
"แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC (Tablet personal computer)" คือ "เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่สามารถพกพาได้และใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรก ออกแบบให้สามารถทำงานได้ด้วยตัวมันเอง" ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากหลังจากทาง Microsoft ได้ทำการเปิดตัว Microsoft Tablet PC ในปี 2001 แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไปและไม่เป็นที่นิยมมากนัก 

"แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC" ไม่เหมือนกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือ Laptops ตรงที่อาจจะไม่มีแป้นพิมพ์ในการใช้งาน แต่อาจจะใช้แป้นพิมพ์เสมือนจริงในการใช้งานแทน (มีแป้นพิมพ์ปรากฎบนหน้าจอใช้การสัมผัสในการพิมพ์) "แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC" ทุกเครื่องจะมีอุปกรณ์ไร้สายสำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและระบบเครือข่ายภายใน

แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ - Tablet Computer หรือ แท็บเล็ต - Tablet
"แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ - Tablet Computer" หรือเรียกสั้นๆว่า "แท็บเล็ต - Tablet" คือ "เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในขณะเคลื่อนที่ได้ขนาดกลางและใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริงหรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด และมีความหมายครอบคลุมถึงโน๊คบุ๊คแบบ convertible ที่มีหน้าจอแบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดติดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบหมุนหรือแบบสไลด์ก็ตาม"  

ซึ่งทางบริษัท Apple ผู้ผลิต "ไอแพด - iPad" ได้เรียกอุปกรณ์ของตัวเองว่าเป็น "แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ - Tablet Computer" เครื่องแรก
ความแตกต่างระหว่าง "แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ - Tablet computer" และ "แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC"
เริ่มแรก "แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC" จะใช้หน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม x86 ของ Intel เป็นพื้นฐานและมีการปรับแต่งนำเอาระบบปฏิบัติการหรือ OS ของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ Personal Computer - PC มาทำให้สามารถใช้การสัมผัสในการทำงานได้ ตัวอย่างเช่น Windows 7 หรือ Ubuntu Linux แทนที่จะใช้แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดหรือเมาส์ และเนื่องจากเป็นการรวมกันระหว่างระบบปฏิบัติการ Windows และหน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ของ Intel ทำให้มีคนเรียกกันว่า "Wintel"

ต่อมาในปี 2010 ได้เกิดแท็บเล็ตที่แตกต่างจาก "แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC" ขึ้นมาโดยไม่มีการยึดติดกับ Wintel แต่ไปใช้ระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนนั่นก็คือ "แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ - Tablet Computer หรือเรียกสั้นๆว่า แท็บเล็ต - Tablet" ซึ่งจะใช้หน้าจอแบบ capacitive แทนที่ resistive ทำให้สามารถสัมผัสโดยการใช้นิ้วได้โดยตรงและสัมผัสพร้อมกันทีละหลายจุดได้หรือ multi-touch ประกอบกับการใช้หน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM แทนซึ่งสถาปัตยกรรม ARM นี้ทำให้แท็บเล็ตนั้นมีการใช้งานได้ยาวนานกว่าสถาปัตยกรรม x86 ของ Intel หลายๆคนคงจะรู้จักแท็บเล็ตตัวนี้กันเป็นอย่างดีนั้นก็คือ ไอแพด (iPad) นั้นเอง

** สรุปความหมายของแท็บเล็ตสั้นๆ ก็คือ คอมพิวเตอร์พกพาหรือคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งานขณะเคลื่อนที่ได้ขนาดกลางที่มีหน้าจอแบบสัมผัสในการใช้งานเป็นหลัก

แต่นั่นก็เป็นมุมมองของแต่ละบริษัทและแต่ละคนว่าจะเรียกมันว่าอะไร ในอนาคตอาจจะมีการนิยามคำว่า แท็บเล็ต ใหม่ให้มันกระชับและครอบคลุมมากกว่านี้ก็ได้ครับ

แท็บเล็ตเจิดจรัส 5 ปีแซงโน้ตบุ๊ก

ผลวิจัยล่าสุดพบยอดขายแท็บเล็ตอาจแซงหน้าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กใน 5 ปีข้างหน้า (2017) ระบุปัจจัยเสริมคือความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นความคล่องตัวในการพกพาเป็นหลัก
    
      กลุ่มอุปกรณ์โมบายล์คอมพิวติhงที่ผู้บริโภคต้องการนั้นกำลังย้ายจากคอมพิวเตอร์วางตักธรรมดาหรือแล็ปท็อปอย่างโน้ตบุ๊ก มาเป็นแท็บเล็ตพีซี แนวโน้มนี้ทำให้แท็บเล็ตมีโอกาสทำ ริชาร์ด ชิม (Richard Shim) นักวิเคราะห์อาวุโสของบริษัทวิจัยเอ็นพีดีดิสเพลย์เสิร์ช (NPD DisplaySearch) กล่าวว่า สินค้ายอดจำหน่ายสูงกว่าโน้ตบุ๊กในช่วง 4-5 ปีนับจากนี้
    
       สำนักเอ็นพีดีฯ คาดว่าโน้ตบุ๊กจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจาก 208 ล้านเครื่องในปีนี้ มาเป็น 393 ล้านเครื่องในปี 2017 แต่แท็บเล็ตจะมียอดจำหน่ายที่เติบโตเร็วกว่า โดยจะเพิ่มจาก 121 ล้านเครื่องในปีนี้ มาเป็น 416 ล้านเครื่องในปี 2017    
       ข้อมูลจากกราฟพยากรณ์การจัดส่งพีซีพกพาทั่วโลก หรือ Worldwide Mobile PC Shipment Forecast พบว่า ตลาดคอมพิวเตอร์พกพารุ่นเล็กราคาประหยัดที่เรียกว่า “มินิโน้ต (Mini-Note PC)” นั้นมีส่วนแบ่งตลาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
    
       จุดนี้เอ็นพีดีระบุว่า แท็บเล็ตตระกูลวินโดวส์ 8 (Windows 8) จะเป็นแรงดันสำคัญในการขยายตัวของตลาดแท็บเล็ต ซึ่งแม้ไม่เอ่ยชื่อ แต่สื่อต่างประเทศล้วนเชื่อว่าเอ็นพีดีหมายถึง “เซอร์เฟซ (Surface)” แท็บเล็ตที่ไมโครซอฟท์เป็นผู้พัฒนาขึ้นเองในฐานะแท็บเล็ตรุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ จะเป็นพลังสำคัญในการดันตลาดแท็บเล็ตให้ขยายตัวเกินหน้าโน้ตบุ๊ก
    
       สาเหตุเป็นเพราะแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 นั้นไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการฉบับย่อที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์พกพา ซึ่งต้องตัดความสามารถบางอย่างเพื่อให้สามารถรักษาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นาน แต่แท็บเล็ตวินโดวส์ 8 จะใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 เวอร์ชันเต็มที่คงความสามารถใกล้เคียงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมากที่สุด
    
       สิ่งนี้ทำให้ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันสำหรับโน้ตบุ๊กที่ไม่สามารถใช้งานบนแท็บเล็ตทั่วไป สามารถใช้งานบนแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 ได้ ความสามารถนี้เมื่อรวมกับเคสหรือหน้ากากแท็บเล็ตที่สามารถแนบคีย์บอร์ดลงไป จะทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเปลืองแรงถือหิ้วคอมพิวเตอร์วางตักหลายกิโลกรัมอีกต่อไป
    
       นอกจากความคล่องตัวในการพกพา เหตุที่จะทำให้แท็บเล็ตประสบความสำเร็จแซงหน้าโน้ตบุ๊กคือพัฒนาการของแบตเตอรี่ จุดนี้เอ็นพีดีฯ วิเคราะห์ว่าการที่แท็บเล็ตมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานกว่าโน้ตบุ๊กในขณะนี้ ทำให้ผู้ใช้ฝักใฝ่แท็บเล็ตมากกว่า
    
       เอ็นพีดีฯ สะท้อนว่าผู้บริโภคกำลังให้ความสำคัญต่อพลังการประมวลผลในอุปกรณ์น้อยลง ซึ่งแม้จะมีผู้ที่ต้องการคอมพิวเตอร์พลังแรงในการทำงานอยู่บ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่พบว่าแท็บเล็ตไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จุดนี้เอ็นพีดีฯ เชื่อว่าผู้บริโภคที่ต้องการใช้แท็บเล็ตพลังแรงกว่านี้จะไม่ต้องรอนาน เพราะในอนาคตแท็บเล็ตคุณภาพสูงที่มาพร้อมหน่วยประมวลผลหลายแกน (multi-core processor) จะวางตลาดบนระบบปฏิบัติการที่ดีกว่า บนแอปพลิเคชันที่มีจำนวนมากขึ้น และหน้าจอที่มีความละเอียดมากขึ้น
    
       อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจนี้สวนทางกับสำนักข่าวดิจิไทมส์ (DigiTimes) ที่รายงานก่อนหน้านี้ว่า แท็บเล็ตอาจมีผลกระทบต่อตลาดโน้ตบุ๊กน้อยลง เนื่องจากแท็บเล็ตจะมีบทบาทเน้นด้านความบันเทิงมากกว่าการทำงานและการเรียนการสอน และมีโอกาสสร้างความต้องการใหม่มากกว่าการลดความต้องการโน้ตบุ๊กลง
    
       จุดนี้มีการวิเคราะห์ว่าผู้บริโภคอาจเลื่อนการซื้อโน้ตบุ๊กออกไปแล้วนำเงินส่วนนั้นไปซื้อแท็บเล็ต แต่ความต้องการโน้ตบุ๊กจะเพิ่มขึ้นเมื่ออินเทลเปิดตัวหน่วยประมวลผลตระกูล Ivy Bridge พร้อมกับที่ไมโครซอฟท์จะเปิดตัววินโดวส์ 8 ในปีนี้ จุดนี้ทำให้ตลาดโน้ตบุ๊กครึ่งปีหลังมีแนวโน้มในทางบวก
    
       สำหรับปีนี้บริษัทวิจัยเอบีไอรีเสิร์ช (ABI Research) มองว่าแท็บเล็ตวินโดวส์จะมีผลต่อตลาดแท็บเล็ตเพียงเล็กน้อย โดยจะมียอดจัดส่งราว 1.3% (ของตลาดแท็บเล็ต) เท่านั้น สาเหตุเพราะวินโดวส์ 7 เป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่ถูกยอมรับในวงการแท็บเล็ต เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อวินโดวส์ 8 ออกสู่ตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้